“บิ๊กเอียร์” ถ้วยแชมป์แรงอาถรรพ์

ธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่งของการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ คือการให้นักเตะทั้งสองทีมเดินผ่านถ้วยรางวัลลงสู่สนาม เพื่อให้นักเตะทุกคนได้รู้สึกว่าแชมป์อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่สิ่งที่นักเตะทุกคนต้องระวังคือการไม่หลงเสน่ห์ไปกับมนต์สะกดอันย้ำยวนของถ้วยบิ๊กเอียร์ จนเผลอไปสัมผัสก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น เพราะในอดีตที่ผ่านมาหากนักเตะจากทีมใดเอื้อมมือไปจับถ้วยแชมป์ก่อนลงเตะ ทีมนั้นจะหมดโอกาศชูถ้วยแชมป์ในท้ายที่สุด

โมนาโก นัดชิงชนะเลิศปี 2004 ณ สนามอาเรนา เอาฟ์ชัลเคอ เมืองเกลเซนเคียร์เชิน ประเทศเยอรมนี

ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2003-04 เป็นการโคจรมาพบกันของ 2 ม้ามืดแห่งปีระหว่าง เอฟซี ปอร์โต้ แชมป์ยูฟ่า คัพเมื่อฤดูกาลก่อน กับ โมนาโก รองแชมป์ลีกเอิงฝรั่งเศส โดยก่อนเริ่มเกมการแข่งขัน โมนาโก ภายใต้การนำทัพของดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ถูกยกให้มีโอกาสคว้าแชมป์มากกว่าทีมจากโปรตุเกส เนื่องจากสามารถปราบทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปมาได้ทั้งเชลซี และเรอัล มาดริด แต่แล้วระหว่างลงสนามกัปตันทีมอย่าง ลูโดวิช ชูลี ได้ยื่นมือไปสัมผัสถ้วยบิ๊กเอียร์ ส่งผลให้ปีกทีมชาติฝรั่งเศสอยู่ในสนามได้เพียง 23 นาที ก่อนที่ปอร์โต้จะยิงรวดเดียว 3 ประตู สร้างประวัตศาสตร์เป็นแชมป์สมัยแรก และสร้างชื่อให้กับผู้จัดการทีมไฟแรงอย่างโชเซ่ มูรินโญ่

เอซี มิลาน นัดชิงชนะเลิศปี 2005 ณ สนามอตาเติร์ก กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี

หลังจาก เอซี มิลาน คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เหนือคู่แข่งร่วมลีกอย่างยูเวนตุส เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน ในฤดูกาล 2004-05 ยอดทีมจากอิตาลีก็ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง โดยมียักษ์หลับจากอังกฤษอย่างลิเวอร์พูล เป็นคู่ต่อกร นัดนี้ทีมปีศาจแดง-ดำถูกยกให้เป็นทีมเต็งด้วยคุณภาพของนักเตะทั้งตัวจริงและตัวสำรอง แต่ก่อนที่เกมจะเปิดฉากขึ้น เจนาโร่ กัตตูโซ่ และริคาร์โด้ กาก้า ซูเปอร์สตาร์ของทีมเป็น 2 นักเตะที่เอื้อมไปจับถ้วยแชมป์ระหว่างเดินผ่าน ทำให้ทีมของพวกเขาที่ออกนำไปก่อนในครึ่งแรกถึง 3 ประตู กลับถูกตามตีเสมอได้สำเร็จในช่วงครึ่งหลัง ก่อนที่จะเป็นฝ่ายแพ้จุดโทษชี้ขาด กลายเป็นปาฏิหาริย์แห่งอิสตันบูลของทีมหงส์แดง

บาร์เยิร์น มิวนิค นัดชิงชนะเลิศปี 2012 ณ สนามอารีอันซ์ อารีน่า เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

ในฤดูกาล 2011-12 บาร์เยิร์น มิวนิค กุมความได้เปรียบก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเหนือคู่แข่งอย่าง เชลซี ด้วยการลงเล่นในสนามเหย้าของตัวเอง แต่แล้ว อนาโตลี ตีโมชุค เซ็นเตอร์แบ็กจำเป็นกลับทำลายความได้เปรียบนั้นด้วยการสัมผัสถ้วยรางวัลที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์ในช่วงเดินลงสนาม แม้ทีมเสือใต้จะยิงประตูขึ้นนำในช่วงท้ายครึ่งหลัง แต่ก็ถูกทีมสิงโตน้ำเงินครามตามตีเสมออย่างรวดเร็ว จนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษตัดสิน ทั้งที่พวกเขามีโอกาสชนะจากการยิงเข้าไปก่อนของ 3 คนแรก แต่กลับมาพลาดจากการยิงของ 2 คนสุดท้าย ในขณะที่เชลซียิงพลาดเพียงคนแรกคนเดียว