ผลกระทบของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากโทษแบนของยูฟ่า

สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ได้ประกาศบทลงโทษตัดสิทธิ์แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากการแข่งขันทุกรายการที่ยูฟ่าเป็นผู้จัดเป็นเวลา 2 ปี ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้าหมดสิทธิ์ลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้าทันที แม้จะทำอันดับติด 1 ใน 4 ของพรีเมียร์ลีกก็ตาม ทั้งนี้เป็นผลมาจากการกระทำผิดต่อกฎควบคุมการเงิน (Financial Fair Play) ที่ยูฟ่านำมาใช้ตั้งแต่ปี 2010 โดยทางยูฟ่าตรวจสอบพบว่าเงินที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้รับจากสายการบินเอติฮัด แอร์เวย์ส สปอนเซอร์รายใหญ่ของสโมสร มีเส้นทางการเงินส่วนใหญ่มาจากชีค มันซูร์ เจ้าของทีมชาวอาหรับ ซึ่งการทุ่มเงินส่วนตัวของบรรดามหาเศรษฐีให้กับสโมสรตัวเอง ทำให้สโมสรเหล่านั้นใช้จ่ายอย่างเกินตัวโดยเฉพาะการซื้อนักเตะ นำมาซึ่งความไม่เป็นธรรมในวงการฟุตบอล ยูฟ่าจึงออกกฎควบคุมการเงินเพื่อบังคับใช้กับทุกสโมสรในยุโรป และเมื่อทีมเรือใบกระทำผิดด้วยการบิดเบือนข้อมูลทางบัญชี จึงนำมาซึ่งการลงโทษดังกล่าว

หลังถูกลงโทษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แถลงการณ์ไม่ยอมรับคำตัดสินของยูฟ่า และยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลกทันที แม้ระหว่างการอุทธรณ์จะทำให้บทลงโทษดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่หากท้ายที่สุดการอุทธรณ์ให้ผลเป็นลบ ย่อมสร้างผลกระทบต่อทีมเรือใบสีฟ้าอย่างมหาศาลในหลายมิติเลยทีเดียว

สูญเสียรายได้มูลค่ามหาศาล

ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มีผู้ติดตามรับชมมากกว่า 360 ล้านคนทั่วโลก ผลประโยชน์อันมหาศาลที่ยูฟ่าได้รับถูกนำมาเป็นเงินรางวัลให้กับทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน โดยทีมระดับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ย่อมได้รับการการันตีให้เข้ารอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลทันที 15.25 ล้านยูโร และหากนัดไหนชนะก็จะได้รับอีก 2.7 ล้านยูโร ส่วนนัดที่เสมอจะได้รับ 9 แสนยูโร แถมหากผ่านเข้ารอบลึก ๆ ก็จะได้เงินรางวัลที่มีมูลค่าสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเงินรางวัลสำหรับแชมป์มีมูลค่าถึง 19 ล้านยูโร แม้แต่รองแชมป์ก็ยังได้รับอยู่ที่ 15 ล้านยูโร ซึ่งรายได้เหล่านี้จะทำให้พวกเขาสามารถนำไปใช้จับจ่ายนักเตะได้อย่างถูกต้องตามกฎควบคุมการเงิน

สูญเสียอันดับในการเป็นทีมวางรอบแบ่งกลุ่ม

ปัจจุบันแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีค่าสัมประสิทธิ์เป็นทีมวางระดับต้น ๆ ของแชมเปียนส์ลีก ทำให้พวกเขาไม่ต้องอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกับทีมระดับท็อป แต่การถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันถึง 2 ปี ย่อมส่งผลต่อคะแนนในการจัดอันดับของพวกเขา และอาจทำให้ต้องโคจรไปพบทีมยักษ์ใหญ่ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ต่อไป

สูญเสียความเชื่อมั่นจากนักเตะและผู้จัดการทีม

แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ถือเป็นความฝันของนักเตะทุกคน การถูกแบบถึง 2 ปี นอกจากจะส่งผลต่อการตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมของนักเตะใหม่แล้ว อาจทำให้บรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ต่างชาติของทีมเลือกที่จะย้ายออกไปหาประสบการณ์ใหม่กับสโมสรที่ได้ลงเล่นในเวทียุโรป ไม่เว้นแม้แต่ตัวเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ประสบความสำเร็จทุกรายการบนเกาะอังกฤษแล้ว หากไม่มีศึกยุโรปให้นำทัพก็ไม่เหลือความท้าทายใดอีก

น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าผลลัพธ์จากการอุทธรณ์จะนำพาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปในทิศทางไหน พวกเขาจะได้กลับไปโลดเล่นในเวทียุโรปอย่างที่ตั้งใจ หรือจะต้องสร้างทีมกันใหม่อีกครั้ง แล้วปล่อยให้ความหวังในการเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกสมัยแรกต้องลอยห่างออกไป